นมผง (Milk Powder) คือ เป็นนมอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยม
โดยการนำน้ำนมไประเหยน้ำออกด้วยกรรมวิธีทำให้แห้ง (Dehydration) เพื่อให้น้ำนมอยู่ในรูปของผงพร้อมชง
ซึ่งขั้นตอนการทำนมผงมีดังนี้
1.ตรวจสอบคุณภาพ
คือ การนำน้ำนมดิบมาตรวจสอบคุณภาพว่ามีปริมาณสารอาหาร
วิตามินและเกลือแร่อยู่ในน้ำนมดิบปริมาณเท่าใด
รวมถึงการตรวจสอบปริมาณของจุลินทรีย์ที่พบในน้ำนมด้วย
2.ปรับมาตราฐาน
(Standardization) คือ
การปรับส่วนประกอบภายในน้ำนมให้มีปริมาณของไขมันนม วิตามิน แร่ธาตุ ให้มีค่าตามมาตรฐานที่ตั้งไว้
ซึ่งแต่ละบริษัทแตละยี่ห้อจะมีค่ามาตราฐานที่แตกต่างกันไป
3.การพลาสเจอไรซ์
(Pasteurization) คือ
การนำน้ำนมที่ผ่านการปรับมาตรฐานเรียบร้อยแล้ว มาทำการผ่านความร้อนประมาณ 63-65
องศาเซลเซียส นาน 30 นาทีหรือการทำให้ร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 72
องศาเซลเซียสนาน 16 นาที และทำให้เย็นลงทันทีที่อุณหภูมิไม่เกิน 5
องศาเซลเซียส เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในน้ำนมให้หมดไป
ป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ในนมผงที่ได้
4.การฮอร์โมจีไนซ์
(Homogenization) คือ การทำให้ไขมันนมเกิดการแตกตัวให้เล็กลงและรวมตัวกันเป็นเนื้อเดียวกับน้ำ
และไม่เกิดการแยกชั้นขึ้นในกระบวนการทำให้แห้ง
5.การทำให้เข้มข้นด้วยการระเหย
(Evaporation) คือ การระเหยเอาน้ำออกจากน้ำนม
ทำให้น้ำนมมีความเข้มข้นสูงขึ้น
ในการผลิตนมผงนิยมนำมาทำให้เข้มข้นก่อนที่จะนำไปทำให้แห้งเพื่อลดต้นทุน ลดเวลาและลดพลังงานในการทำให้แห้ง
6.การทำให้แห้ง
(Dehydration) คือ การทำนมที่เข้มข้นให้แห้งกลายเป็นนมผง
ซึ่งมีอยู่ 2 ระบบที่นิยมใช้ในการทำให้แห้งคือ
6.1
การทำให้แห้งด้วยลูกกลิ้ง (Drum Drier) ทำโดยการนำลูกกลิ้งที่มีความร้อนสูงไปสัมผัสกับน้ำนมเข้มข้น
น้ำที่มีอยู่ในน้ำนมจะระเหยออกไปจนหมด เหลือแต่ผงของนมติดอยู่บนลูกกลิ้ง
แล้วทำการขุดผงนมที่ติดอยู่บนลูกกลิ้งออกมาทำการบดอีกครั้งจะได้เป็นนมผง
การทำให้แห้งด้วยลูกกลิ้งไม่เป็นผลดีต่อนมผงที่ได้เพราะน้ำนมต้องสัมผัสกับความร้อนสูงจากลูกกลิ้ง
จึงเกิดปฏิกิริยาการเกิดสีน้ำตาลส่งผลให้น้ำตาลและกรดแอมิโนไลซีนมีกลิ่นไหม้
โปรตีนในน้ำนมไม่สามารถละลายน้ำได้หมด
6.2
การทำให้แห้งด้วยระบบฉีดฝอย
ทำได้โดยการฉีดพ่นน้ำนมให้เป็นฝอยเข้าไปในห้องที่มีความร้อนหรือให้สัมผัสกับลมร้อนในห้องที่ทำแห้ง
ซึ่งลมหรือไอความร้อนจะมีอุณหภูมิประมาณ 150-300
องศาเซลเซียส ปล่อยลมร้อนเข้าไปด้วยความเร็ว 50
เมตรต่อวินาที
ซึ่งการปล่อยลมร้อนนี้สามารถปล่อยไปในทิศทางเดียวกับที่ฉีดน้ำนมหรือปล่อยในทิศทางที่สวนกับทิศการปล่อยน้ำนมก็ได้
นมผงที่ผ่านขั้นตอนการผลิตมาแล้วนั้น
มีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด ขึ้นอยู่กับน้ำนมสดที่นำมาผลิตนมผง ดังนี้
2.1
นมผงธรรมดา (Dried / Powder Milk) หรือนมผงพร้อมมันเนย (Dry Whole
Milk) คือนมผงที่ผลิตจากน้ำนมธรรมดาที่มีปริมาณไขมันเนยตามธรรมปกติ
นำมาผ่านกรรมวิธีการระเหยน้ำออกจนเหลือน้ำประมาณ 3-5%
2.2
นมผงขาดมันเนย (Dried Skim Milk) หรือนมผงพร่องมันเนย (Non Fat
Dried Milk) คือนมผงที่ผลิตจากนมที่ผ่านขั้นตอนการนำไขมันนมออกไป
เรียกว่า “หางนม” นมผงชนิดนี้จะมีปริมาณไขมันน้อยกว่านมผงธรรมดาจึงให้พลังงานต่อร่างกายน้อยเช่นกัน
แต่สารอาหารทั้งโปรตีน แคลเซียม และวิตามินนั้นใกล้เคียงกับนมผงธรรมดา
2.3 นมผงดัดแปลง
(Humanized / Modified Milk) คือ นมผงที่มีการรเติมสารอาหาร
แร่ธาตุและวิตามินเข้าไปเพื่อให้มีคุณค่าทางอาหารคล้ายกับนมมารดาหรือบางครั้งมีการเพิ่มสารอาหารให้มากกว่าในนมมารดา
นมผงชนิดนี้พัฒนามาให้เหมาะสมสำหรับเด็กทารกใช้ดื่มแทนนมมารดาหลังจากที่นมมารดาหมดหรืออายุครบ
1 ปีขึ้นไป
นมผง